โป๊ะแตกเป็นเมนูต้มยำที่ใส่วัตถุดิบจากทะเลหลายชนิด เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก ไว้ในชามเดียว นิยมจัดเสิร์ฟในหม้อดิน หรือ หม้อไฟ จนทะลักหม้อ เหมือนกับโป๊ะของชาวประมงที่ใช้จับสัตว์ทะเล ทำให้คนไทยเรียกเมนูนี้อีกอย่างว่าโป๊ะแตกหรือต้มยำโป๊ะแตก โดยแตกต่างจากเมนูต้มยำปกติตรงที่เป็นต้มยำน้ำใส ไม่ใส่พริกเผาและใส่ใบกะเพรา
เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้กับน้ำซุปมากยิ่งขึ้น ขึ้นชื่อว่า ต้มยำทะเล ก็ควรใส่วัตถุดิบจากทะเล ลงไปเต็ม ๆ แน่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึกต่าง ๆ ซึ่งก็ควรเลือกที่มีความสดใหม่ด้วย เพื่อให้เนื้อสัมผัสแน่น ไม่เหม็น หรือ มีกลิ่นคาว พอลวกจนสุกแล้ว จัดวางเรียงใส่ชามหรือหม้อไฟให้สวยงาม แค่นี้ก็จะทำให้ โป๊ะแตก ของคุณน่ารับประทานแล้ว อีกส่วนสำคัญก็คือ น้ำซุป ต้องใส่เครื่องเทศอย่าง หอมแดง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ลงไป จะช่วยให้น้ำต้มยำมีกลิ่นหอมของสมุนไพร ที่สำคัญคือ ใส่ ใบกะเพรา ปิดท้าย เพื่อให้น้ำซุปมีความเผ็ดร้อน และ มีกลิ่นหอมโชย น่ารับประทาน วิธีทำโป๊ะแตก ด้วยตัวเองที่บ้าน ทำได้ง่ายมาก ๆ โดยสูตรนี้ จะใส่แค่กุ้ง ปลาหมึก และ หอยแมลงภู่ เท่านั้น แต่ถ้าใครอยากใส่วัตถุดิบอื่น ๆ เช่น เนื้อปลากระพง หอยขม หอยแครง ฯลฯ ก็สามารถใส่เพิ่มลงไปได้ ไม่ว่ากัน รับรองว่า ยิ่งกินก็ยิ่งอร่อย ทำกินได้ไม่มีเบื่อแน่นอน ส่วนผสม กุ้งขาว หมึกกล้วย หอยแมลงภู่ กระชาย กระเทียม หอมแดง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบกะเพรา ผักชี ผักชีฝรั่ง พริกขี้หนูสวน น้ำเปล่า น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย วิธีทำโป๊ะแตก 1. ใช้มีดหั่นซอย กระชาย กระเทียม หอมแดง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ผักชี ผักชีฝรั่ง เตรียมไว้ 2. เตรียมครกกับสาก ใส่กระเทียม พริกขี้หนูสวน ตำให้แหลกพอหยาบ ๆ 3. จากนั้น นำกุ้งขาว ปลาหมึก หอยแมลงภู่ มาล้างทำความสะอาด และ แกะเปลือกออกให้เรียบร้อย 4. ตั้งหม้อ ต้มน้ำให้เดือด ลวกกุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่ ให้สุก เสร็จแล้ว ตักขึ้น พักไว้ 5. ใช้น้ำเดิมในหม้อ ทำน้ำต้มยำ โดยใส่หอมแดง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ลงไป ต้มน้ำให้เดือด จนมีกลิ่นหอม 6. ปิดไฟ ใส่กระเทียม พริกแดง ที่โขลกไว้ ตามด้วย กระชาย ผักชี ผักชีฝรั่ง คนให้เข้ากัน 7. ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย แล้วใส่ใบมะกรูด ใบกะเพรา ตามชอบ 8. เตรียมชามจัดเสิร์ฟ ใส่กุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่ ให้สวยงาม แล้วตักน้ำต้มยำราดลงไป เป็นอันเสร็จ